ReadyPlanet.com


สวยมีค่า เพราะหน้าพี่แพง ต้นทุนความสวยยุคนี้อยู่ที่เท่าไหร่กันนะ?


  

 
 
ศัลยกรรมตา ตาสองชั้น จัดเรียงไขมันใต้ตา นำถุงไขมันใต้ตาออก และอื่นๆ อีกมากมาย จากแพทย์ศัลยกรรมชั้นนำจากเกาหลี เข้าถึงง่าย ไม่ต้องบินไกลไปถึงเกาหลีกับ K Beauty Hospital


เคยมีคนเล่นมุกว่าถ้าเจอโจรปล้นของมีค่า ให้บอกว่าทิ้งกระเป๋าไว้แล้วเอาตัวไปได้เลย ฟังไปแล้วก็ชักจะเห็นด้วยขึ้นมาหน่อยๆ เพราะต้นทุนความสวยยุคนี้นั้นดูเหมือนสูงเสียดฟ้า สิ่งที่มีค่าที่สุดในตัวเลยอาจเป็นหน้าที่ทำมาหลักแสน

 

เกิดเป็นผู้ใหญิงยุคใหม่นอกจากต้องใส่ใจเรื่องค่ากินอยู่ให้ครอบคลุมชีวิตประจำวัน ก็ดันเป็นคนมีค่าให้ต้องปาดน้ำตาจ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่เสมอ ทั้งค่าของใช้สำหรับผู้หญิงอย่าง ผ้าอนามัย ยาลดปวดประจำเดือน ค่าตรวจสุขภาพประจำปี ไปจนถึงสินค้าความงามเพื่อช่วยเสริมความมั่นใจให้มากยิ่งขึ้น ในวันนี้เราเลยอยากชวนทุกคนมาร่วมทบทวนไปด้วยกันว่า ต้นทุนการเป็นผู้หญิงในยุคนี้มีราคาอะไรที่ต้องจ่ายกันบ้าง


ภาษีสีชมพู (Pink Tax) เลือกไม่ได้เมื่อต้องจ่ายแพงกว่า

แน่นอนว่าในชีวิตผู้หญิงเราล้วนมีสิ่งของที่ทั้ง ‘ต้องซื้อ’ และ ‘อยากซื้อ’ เช่นเดียวกับผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงบริการด้านความงามต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่าในความเหมือนนั้นกลับมีช่องว่างความต่างเล็กๆ ที่ชวนให้ตั้งข้อสงสัยในความไม่เท่าเทียมกันอยู่ สำหรับเจ้าสิ่งนี้เรามีศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกมันว่า ภาษีสีชมพู หรือ Pink Tax

เล่าโดยย่อภาษีที่ว่านี้ไม่ใช่ภาษีที่จับต้องได้ แต่เป็นคำเปรียบเปรยถึงราคาสินค้าของผู้หญิงที่เมื่อเปรียบเทียบกับของใช้ชนิดเดียวของของเพศชายแล้วกลับมีราคามากกว่า ยกตัวอย่างง่ายๆ แค่ราคาของใบมีดโกน ใบมีดด้ามสีชมพูหวานที่ถูกออกแบบมาขายกลุ่มเป้าหมายเพศหญิงโดยเฉพาะก็ราคาแพงกว่าของผู้ชายแล้ว ยังไม่นับรวมบริการด้านต่างๆ ทั้งร้านเสริมสวย บริการด้านสุขภาพ ที่มักจะเรียกเก็บจากผู้หญิงแพงกว่า

อ๊ะ อย่าเพิ่งย่นหน้าผากที่เพิ่งฉีดโบให้เสียทรงไปว่าที่แล้วมาฉันจ่ายไปเยอะกว่าผู้ชายจริงหรือ เพราะ The New York City Department of Consumer Affairs (DCA) ได้ทำการสำรวจผลิตภัณฑ์กว่า 800 รายการในนิวยอร์กมาแล้วและค้นพบว่าปัญหาภาษีสีชมพูนี้เป็นเรื่องจริง เพราะฉะนั้นราคาแรกที่ต้องจ่ายในฐานะที่เกิดมาเป็นผู้หญิงก็คือความเหลื่อมล้ำเรื่องราคาสินค้า ซึ่งก็หวังเป็นอย่างยิ่งกว่าภายใต้การผลักดันของผู้บริโภคเพศหญิงยุคใหม่จะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันเกิดขึ้นได้ในเร็วๆ นี้

 

สินค้าผู้หญิง จำเป็นต้องใช้ แต่เข้าถึงได้ไม่ทุกคน

ราคาที่สองที่ผู้หญิงต้องจ่ายก็คือสินค้าที่ผู้หญิงจำเป็นต้องใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ผ้าอนามัย หรือยาลดปวดประจำเดือน แน่นอนว่าถ้าเลือกได้ใครจะอยากให้เลือดไหล แล้วยังต้องกัดฟันตอบแชทตอบลูกค้าในกรุ้ปไลน์ทั้งๆ ที่ปวดท้องจนแทบมือจีบกันบ้าง

ทว่าในความเป็นจริงนอกจากในที่ทำงานหลายที่จะไม่ให้ความสนใจกับพนักงานผู้หญิงที่ต้องไฝว้กับอาการข้างเคียงของประจำเดือนทุกเดือนแล้ว สาวๆ วัยเมนส์ยังมาอย่างเราก็ยังคงต้องควักกระเป๋าไม่น้อยในแต่ละเดือนเพื่อจ่ายค่าสินค้าจำเป็นเหล่านี้ในเรทภาษีปกติ ไม่ต้องพูดถึงผ้าอนามัยแบบเย็นหรือกลิ่นชาเขียว แค่ผ้าอนามัยไซซ์และกลิ่นธรรมดาผู้หญิงบางกลุ่มยังไม่สามารถจ่ายได้ไหว จนจุดชนวนให้เกิดคำถามว่าสินค้าที่จำเป็นเหล่านี้ควรเป็นหน้าที่รัฐจัดสรรให้หรือควบคุมราคาให้สมเหตุสมผลกว่านี้หรือเปล่า

 

ความมั่นใจ ราคาที่ต้องจ่ายนั้นแสนแพง

สุดท้ายปฏิเสธไม่ได้เลยว่าราคาที่แพงที่สุดที่ผู้หญิงต้องจ่ายไปในแต่ละเดือนก็คือค่าบำรุงรักษาความงามและความเยาว์วัยให้กับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง สกินแคร์ ไปจนถึงค่าบริการสำหรับการดูแลจากร้านเสริมสวยและคลินิกผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ตั้งแต่เส้นผมจรดเล็บเท้าแน่นอนว่ารวมมูลค่าแล้วไม่จ้อจี้แน่นอน

สาเหตุที่ผู้หญิงเราให้ความสำคัญกับเรื่องรูปร่างหน้าตาภายนอกต้องยอมรับก่อนว่าสายตาของสังคมนั้นเป็นส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นก็คือความสวยช่วยสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตให้เพิ่มขึ้น ผู้หญิงหลายคนไม่ได้อยากสวยไปเพื่อใคร แต่อยากดูแลตัวเองเพื่อเติมเต็มความมั่นใจ เพื่อให้ตัวเองใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้มากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อรักษาความสุขนั้นเอาไว้ ถ้ามีกำลังจ่ายได้ใครบ้างจะไม่อยากทำ?

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ KBH :: วันที่ลงประกาศ 2024-03-22 10:43:18


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล